การุณ โหสกุล (4 ธันวาคม พ.ศ. 2510 — ) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 12 สังกัดพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
การุณ โหสกุล มีชื่อเล่นว่า "เก่ง" เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ จังหวัดยโสธร) เป็นบุตรของนายสมพรรษา โหสกุล และนางสุบรรณ ถนัดทาง มีพี่ชาย 1 คน คือ สุริยา โหสกุล ซึ่งเป็น ส.ก.เขตดอนเมือง มีพี่สาว 1 คน หย่าขาดกับอดีตภรรยา รัชดาวรรณ เกตุสะอาด อดีต ส.ก.เขตดอนเมือง มีบุตร 2 คน ก่อนจะกลับมาจดทะเบียนสมรสรอบสองกับคนเดิม โดยนางรัชดาวรรณ เกตุสะอาด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น นางพิมพ์ชนา โหสกุล ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง
การุณเคยเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตดอนเมือง สังกัดพรรคชาติไทยและได้ลาออกไปสมัครเข้าพรรคไทยรักไทย ทำให้ทางพรรคชาติไทยส่ง นางสาวจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ลงสมัคร ส.ส.แทน และเป็น น.ส.จณิสตาที่ได้รับการเลือกตั้งไป
ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 การุณได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขต 5 กรุงเทพมหานคร (บางเขน, สายไหม และดอนเมือง) ในสังกัดพรรคพลังประชาชน แต่ต่อมาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติให้ยุบพรรคพลังประชาชน การุณจึงย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 และสามารถเอาชนะ แทนคุณ จิตต์อิสระ จากพรรคประชาธิปัตย์ไปได้ ต่อมาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร
แต่ในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ได้ถูกมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบแดงและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากการหาเสียงในการเลือกตั้งที่ผ่านมา การุณมีพฤติกรรมใส่ร้ายแทนคุณหลายต่อหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ศาลฎีกาฯ ได้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 ได้ยืนฟ้องต่อศาลชั้นต้นว่า การุณซึ่งเป็นพนักงานบริษัท เอฟไพร ออริทิเฟรทา จำกัด ได้ร่วมกับบริษัทเอฟไพร ฯ และห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยจูนาฮา ลักลอบนำจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมพร้อมอุปกรณ์จำนวน 91 หีบห่อ ราคา 7,156,688 บาท เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจะส่งออกไปยังประเทศโปแลนด์ โดยหลบเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรจำนวน 406,825 บาท ต่อมาวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2596 มาตรา 27 ให้ปรับเป็นเงินจำนวน 30,254,052 บาท ต่อมาการุณจึงยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ศาลอาญารัชดานัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ แต่การุณไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ดังนั้นศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2548 พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ออกหมายจับ ต่อมาการุณได้เดินทางมารายงานตัวหลังศาลออกหมายจับไปแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และการุณถูกนำตัวไปควบคุมที่ห้องขัง หลังจากนั้นญาติของการุณได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินย่านดอนเมืองราคาประเมิน 4,800,000 บาท ขอประกันตัวออกไป
เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551 ที่อาคารรัฐสภาได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง ผศ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ถูกการุณ ทำร้ายร่างกายโดยกระทืบ และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ศาลจังหวัดดุสิตพิพากษาการุณให้จำคุก 1 ปี และปรับ 1,000 บาท ฐานทำร้ายร่างกาย และปรับ 10,000 บาท ฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ต่อมาในปี 2556 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องนายการุณในคดีนี้
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ที่อาคารรัฐสภาได้มีการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งนางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาวุฒิสภา ได้ถูกนายการุณข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ด้วยถ้อยคำเดี๋ยวจะมาเตะ ส.ว.
การุณได้มีคดีความเรื่องการยกพวกไปรุมทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้อื่นหลายครั้ง แม้กระทั่งภายในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงการทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาด้วยการจิกผมและตบหน้าอย่างอุกอาจกลางสถานที่สาธารณะเช่นท่าอากาศยานกรุงเทพ
ปี 2548 ศาลฎีกา มีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้ง ของการุณ ด้วยเหตุผลว่า สถานภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชของการุณถูกถอน อันเนื่องจากวุฒิการศึกษาระดับปวส.ของการุณเป็นเท็จ ดังนั้นแม้จะมีวุฒิปริญญาโทแล้ว แต่ก็ถือว่าตกคุณสมบัติไปตามกัน แต่โรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต ยังคงยืนยันวุฒิการศึกษาระดับ ปวส. โดยมิได้มีการเพิกถอนวุฒิการศึกษาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ไม่กำหนดระดับการศึกษาขั้นต่ำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้การุณยังคงมีคุณสมบัติเป็น ส.ส.
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 การุณ ถูก นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล ถีบระหว่างไปสังเกตการณ์การบรรจุทรายใส่กระสอบและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 แต่การุณ ได้ปฏิเสธเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนนางสาวมัลลิกา ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริงสาเหตุเนื่องจากนางสาวมัลลิกา บันดาลโทสะที่นายการุณใช้ตัวและก้นมากระแทกอย่างแรงและไม่ให้เกียรติผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ในช่วงที่เกิดอุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 วิสิทธิ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับรายงานเมื่อกลางดึกวันที่ 20 ตุลาคมว่า การุณพร้อมกับชาวบ้านเขตดอนเมืองจำนวนหนึ่ง นำรถแบ็คโฮเข้ารื้อทำลายแนวคันดินที่สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองประปาในฝั่งอำเภอปากเกร็ด จนได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานนี้ (19 ตุลาคม) ในช่วงเย็น มีการเจรจาระหว่างการุณ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ตัวแทนฝั่งเขตดอนเมือง กับ มนตรี ตั้งเจริญถาวร ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคเพื่อไทย ตัวแทนฝั่งอำเภอปากเกร็ด โดยมียงยุทธ วิชัยดิษฐ์ เป็นสักขีพยาน ได้ข้อสรุปว่าจะยินยอมให้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดสร้างแนวคันดินกันน้ำได้ต่อไป แต่จะต้องสร้างแนวคันดินในฝั่งของเขตดอนเมืองให้ด้วย
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2550 พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย ถูกทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่จับกุมนักพนันในบ่อน โดยนาย การุณ โหสกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตดอนเมือง พรรค ทรท. เข้ามากระชากคอเสื้อ และได้ใช้ศีรษะโขกเข้าที่โหนกแก้มของพ.ต.ท.บัญชา จนแตกมีเลือดไหลและทำให้ไม่สามารถทรงตัวได้และได้ล้มลงไปนอนกับพื้นเหตุเกิดที่สนามชนไก่ คลองห้า หมู่ 14 ตำบลบึงคำพรอย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พ.ต.ท. บัญชาได้ออกหมายจับในเวลาต่อมา
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 นายการุณ โหสกุล ถูกทำร้ายร่างกายในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง โดยสาเหตุเกิดจากนายการุณ ขับเจ็ตสกีสวนกับเรือของชาวบ้านเป็นเหตุให้เรือของชาวบ้านล่ม และนายการุณขับเจ็ตสกีวนกลับมาดู ทำให้นายการุณถูกทำร้ายร่างโดยชาวบ้านที่ไม่พอใจ นายการุณได้รับบาดเจ็บที่ปากต้องเย็บ 5 เข็ม ทั้งนี้นายการุณ ได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมืองแล้ว ส่วนคู่กรณี ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ที่ลงมือทำร้ายร่างกายนายการุณ ได้ให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายนายการุณจริงเพราะไม่พอใจที่นายการุณขับเจ็ตสกีมาด้วยความเร็ว จนเกิดคลื่นลูกใหญ่ปะทะเข้าที่เรือที่ตนเองและพวกอีกสามคน จนเรือล่มทำให้พวกตนตกลงไปในน้ำเน่า จากนั้นนายการุณขับเจ็ตสกีสวนกลับมาและมีปากเสียงกันจนทนไม่ไหวและเกิดเหตุดังกล่าว
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายแทนคุณ จิตต์อิสระผู้สมัคร ส.ส.ดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาทกรณีปราศัยด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ สำนักงาน ป.ป.ช.ได้สั่งให้สำนักตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏเป็นข่าวนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 108,355,943.54 บาทภายในระยะเวลา 1ปีนับจากวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2554 และ วันที่ 12 มิ.ย.2554 นายการุณ ได้ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.2554 กับประชาชนที่ตลาดบุญอนันต์ และตลาดนัดโกสุมรวมใจ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ร้ายนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.ดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจูงใจให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตดอนเมืองเข้าใจผิด รวมทั้งไม่ลงคะแนนให้นายแทนคุณ อันเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายการุณ โหสกุล เป็นเวลา 5 ปี และให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่
ต่อมาวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองได้อ่านคดีความตามหมายเลขดำ ลต.16/2555 ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.(ดอนเมือง) พรรคเพื่อไทย ศาลได้เห็นพ้องและมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองนายการุณ โหสกุลเป็นเวลา 5 ปี